ให้คนที่ต้องการสิ่งนั้นเข้าไปยุ่งเกี่ยว ท้ายสุดต้องสูญเสียสิ่งนั้นไปให้กับเขา
แมวก็กินปลาย่างหมด เพราะตามปรกติแมวก็ชอบกินปลา
ประเภทสำนวน
"ใช้แมวไปขอปลาย่าง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นความหมายพิเศษ โดยไม่ได้มีลักษณะเป็นคำสอนโดยตรง (สุภาษิต) หรือเป็นการเปรียบเทียบที่ต้องตีความ (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากการให้แมวไปขอปลาย่างซึ่งเป็นเรื่องที่ขัดกับธรรมชาติ เพราะแมวเป็นสัตว์ที่ชอบกินปลา เมื่อเห็นปลาย่างก็จะต้องกินเอง ไม่มีทางที่จะนำกลับมาให้เจ้าของได้ สำนวนนี้จึงหมายถึงการใช้คนที่มีนิสัยหรือความสนใจตรงกับงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งทำให้เขาอาจจะทำเพื่อประโยชน์ของตัวเองมากกว่า
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ใช้แมวไปขอปลาย่าง" ในประโยค
- การให้อาจารย์ที่ติดเกมมาควบคุมห้องคอมพิวเตอร์ ก็เหมือนกับใช้แมวไปขอปลาย่าง เดี๋ยวก็นั่งเล่นเกมเสียเอง
- การให้นักกินเป็นกรรมการตัดสินอาหาร ก็เหมือนใช้แมวไปขอปลาย่าง ไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้อาหารอร่อยๆ หลุดรอดไปได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี