ซื่อหรือตรงจนเกินไป, ไม่มีไหวพริบ, ไม่รู้จักผ่อนผันสั้นยาว, ไม่รู้จักผ่อนหนักผ่อนเบา.
ประเภทสำนวน
"เถรตรง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีสั้นที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ จำเป็นต้องเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับพระเถรหรือความตรงทางกายภาพแต่อย่างใด
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากลักษณะของพระเถรหรือพระผู้ใหญ่ที่ถือศีลอย่างเคร่งครัด ตรงไปตรงมา ไม่โอนอ่อนผ่อนตาม จึงเปรียบกับคนที่ยึดมั่นในหลักการจนเกินไป ไม่ยืดหยุ่น ไม่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ ทำตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดโดยไม่คำนึงถึงบริบทแวดล้อม
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เถรตรง" ในประโยค
- เขาเป็นคนเถรตรง ถือกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด จนเพื่อนร่วมงานเห็นว่าร่วมงานด้วยยาก
- ผู้จัดการคนนี้เถรตรงเกินไป ไม่ยอมยืดหยุ่นให้พนักงานเลยแม้ในกรณีจำเป็น
- อย่าเถรตรงนักเลย บางครั้งก็ต้องรู้จักผ่อนปรนบ้าง ไม่งั้นอยู่ในสังคมไม่ได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี