ร่วมแรงเพื่อนบ้านมาช่วยกันทำงานเช่นดำนา เกี่ยวข้าว ให้ลุล่วงเร็วขึ้นโดยไม่รับค่าจ้าง และผลัดเปลี่ยนช่วยกันไปตามความจำเป็นของแต่ละบ้าน; รุมกันข่มขืนกระทําชําเราหญิง
ประเภทสำนวน
"ลงแขก" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นคำที่ใช้เฉพาะในภาษาไทย ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ คำว่า 'ลงแขก' ไม่ได้แปลว่าทำอะไรกับแขก แต่มีความหมายเฉพาะเกี่ยวกับวิถีชีวิตการทำงานแบบช่วยเหลือกัน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำว่า 'ลงแขก' มีที่มาจากประเพณีการช่วยเหลือกันในชุมชนชนบทไทยสมัยก่อน โดยเฉพาะในการทำนา ปลูกข้าว หรือเก็บเกี่ยว คนในชุมชนจะมารวมตัวกันช่วยทำงานของเพื่อนบ้านให้เสร็จในคราวเดียว แล้วหมุนเวียนไปช่วยบ้านอื่นๆ ต่อไป เจ้าของบ้านที่ได้รับความช่วยเหลือก็จะเลี้ยงอาหารตอบแทน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ลงแขก" ในประโยค
- วันเสาร์นี้เพื่อนๆ ในหมู่บ้านลงแขกช่วยกันปลูกผักในแปลงสาธารณะของชุมชน
- พอรู้ว่าครอบครัวป้าแจ่มกำลังซ่อมหลังคาบ้าน เพื่อนบ้านก็พากันลงแขกช่วยจนเสร็จภายในวันเดียว
- นักศึกษาในคณะพากันลงแขกทำความสะอาดห้องสมุดเพื่อเตรียมงานเปิดภาคเรียน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี