ประเภทสำนวน
"ยืมจมูกคนอื่นหายใจ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำพังเพยเพราะเป็นการเปรียบเปรยเชิงสอนใจ โดยใช้ภาพลักษณ์ของการยืมจมูกคนอื่นซึ่งเป็นไปไม่ได้ในความเป็นจริง เพื่อสื่อถึงพฤติกรรมที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา โดยมีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนที่ตรงไปตรงมาเหมือนสุภาษิต และไม่ใช่คำที่มีความหมายเฉพาะที่ต้องจำเหมือนสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำพังเพยนี้เปรียบเทียบการที่คนต้องพึ่งพาผู้อื่นอยู่เสมอ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แม้กระทั่งในเรื่องพื้นฐานที่สุด เหมือนการหายใจซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องทำด้วยตัวเอง การยืมจมูกคนอื่นมาหายใจเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แสดงถึงการพึ่งพาที่ไม่สมควรและไม่ควรเกิดขึ้น
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ยืมจมูกคนอื่นหายใจ" ในประโยค
- เขาเป็นคนที่ยืมจมูกคนอื่นหายใจไปวันๆ ไม่เคยคิดจะพึ่งพาตัวเองเลย
- เธอควรเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองบ้าง อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจไปตลอดชีวิตแบบนี้
- พ่อแม่ไม่ได้อยากให้ลูกยืมจมูกคนอื่นหายใจ จึงพยายามสอนให้ทำอะไรด้วยตัวเองตั้งแต่เด็ก
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี