ลูกที่อยู่ในท้องซึ่งยังไม่ปรากฏว่าใครเป็นพ่อ หรือไม่มีใครรับว่าเป็นพ่อ
ประเภทสำนวน
"มารหัวขน" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่ต้องตีความพิเศษ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) และไม่ใช่การเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้เรียกคนที่สร้างความวุ่นวาย ก่อความยุ่งยาก หรือสร้างปัญหาให้แก่ผู้อื่น เปรียบเหมือนผู้หญิงที่มีนิสัยร้ายกาจเหมือนมาร (ปีศาจ) ที่มีผมขรุขระ หรือมีผมยุ่งเหยิงน่ากลัว ซึ่งในความเชื่อโบราณมักเชื่อว่าผู้หญิงที่มีผมยุ่งเหยิงมักมีนิสัยดุร้าย
ตัวอย่างการใช้สำนวน "มารหัวขน" ในประโยค
- เธอโกรธอะไรก็ไม่รู้ ทำหน้าบึ้งตึง จู้จี้ขี้บ่น เป็นมารหัวขนไปเลยวันนี้
- ฉันไม่อยากเข้าไปยุ่งกับผู้จัดการคนนั้นหรอก เธอเป็นมารหัวขน ใครเข้าไปใกล้ก็โดนดุเอาทุกราย
- ตั้งแต่ตั้งท้อง ภรรยาเขากลายเป็นมารหัวขน อารมณ์ร้ายตลอดเวลา ใครพูดอะไรผิดหูก็โดนดุเอา
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี