บริสุทธิ์มาก ไม่แปดเปื้อนเจือปนใด ๆ
ประเภทสำนวน
"น้ำค้างกลางหาว" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องเข้าใจความหมายพิเศษที่แฝงอยู่ ไม่ใช่คำสอนโดยตรงหรือการเปรียบเทียบที่มีนัยยะสอนใจ แต่เป็นคำที่ใช้เรียกสภาพหรือลักษณะพิเศษโดยเฉพาะ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
เป็นสำนวนที่หมายถึง สภาพที่กลืกกลืนอยู่ไม่ได้ตัดสินใจไม่ลง ลังเลใจ ไม่แน่นอน อยู่ในสภาพที่ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป เปรียบเหมือนน้ำค้างที่อยู่กลางอากาศ (หาว) ไม่ได้ตกลงมาบนพื้นดิน ไม่รู้ว่าจะไปทางไหน มีสภาพลอยๆ ไม่แน่นอน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "น้ำค้างกลางหาว" ในประโยค
- ความสัมพันธ์ของคู่รักคู่นี้ตอนนี้เหมือนน้ำค้างกลางหาว ยังไม่รู้เลยว่าจะลงเอยอย่างไร
- การเจรจาซื้อขายที่ดินยังคงเป็นน้ำค้างกลางหาว ทั้งสองฝ่ายยังตกลงราคากันไม่ได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี