กระทบความรู้สึก มักใช้ในความปฏิเสธ
ประเภทสำนวน
"กระเทือนซาง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถเข้าใจได้จากความหมายตรงตัว ต้องตีความ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) และไม่ใช่การเปรียบเทียบที่ชัดเจน (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากต้นไม้หรือพืชที่ยังอ่อนอยู่ เรียกว่า 'ซาง' เมื่อมีการกระเทือนหรือกระแทกซางจะทำให้การเจริญเติบโตชะงักหรือเสียหาย สำนวนนี้จึงใช้เปรียบเทียบถึงการกระทำที่ทำให้เกิดความกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกหรือจิตใจ โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นเรื่องเก่าที่พยายามลืมหรือเยียวยาแล้ว แต่มีคนมาพูดถึงหรือกระทำให้ระลึกถึงอีก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กระเทือนซาง" ในประโยค
- อย่าเพิ่งไปพูดเรื่องที่แฟนเก่าเขาทิ้งให้เขาฟังเลย เขาเพิ่งจะหายเศร้า จะไปกระเทือนซางเขาทำไม
- หมอบอกให้ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำ เดี๋ยวจะกระเทือนซาง ทำให้แผลหายช้า
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี