การห่างไกลความเจริญ
สมัยก่อนยังไม่มีเครื่องบอกเวลา แต่จะมีการยิงปืนใหญ่เป็นการบอกเวลาแทน ไกลปืนเที่ยงจึงหมายความว่า อยู่ไกลมากจนไม่ได้ยินเสียงสัญญาณปืนที่บอกเวลานั่นเอง
ไม่ค่อยรู้ความเป็นไปของโลก เพราะอยู่ห่างไกลความเจริญ
ประเภทสำนวน
"ไกลปืนเที่ยง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถเข้าใจได้จากการแปลตรงตัว ต้องตีความเป็นพิเศษ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) และไม่ใช่การเปรียบเทียบอย่างมีนัย (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากระยะยิงของปืน โดยอ้างอิงถึงระยะไกลที่เกินกว่าความสามารถของปืนเที่ยงตรงจะยิงถึง จึงใช้อุปมาถึงสถานที่หรือวัตถุที่อยู่ห่างไกลมาก จนแทบจะไปถึงหรือเดินทางไปได้ยาก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ไกลปืนเที่ยง" ในประโยค
- บ้านของเขาอยู่ไกลปืนเที่ยง ต้องเดินทางเกือบครึ่งวันกว่าจะถึง
- โรงเรียนของลูกอยู่ไกลปืนเที่ยง ทุกวันพ่อต้องตื่นตั้งแต่ตีห้าเพื่อไปส่ง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"ไกลปืนเที่ยง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นความหมายพิเศษ ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) หรือการเปรียบเทียบ (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากศักยภาพของอาวุธปืนโบราณที่ยิงได้ไกลและแม่นยำเพียงระยะหนึ่งเท่านั้น หากเป้าหมายอยู่ไกลเกินระยะยิงที่เรียกว่า 'ปืนเที่ยง' ก็จะไม่สามารถยิงถูกได้ สำนวนนี้จึงใช้เปรียบเทียบถึงสถานการณ์หรือสิ่งที่อยู่ห่างไกลเกินกว่าจะเอื้อมถึงหรือควบคุมได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ไกลปืนเที่ยง" ในประโยค
- กรุงเทพฯ กับชายแดนภาคใต้นั้นไกลปืนเที่ยง ยากที่รัฐบาลจะควบคุมสถานการณ์ได้อย่างทั่วถึง
- เขาย้ายไปทำงานที่ต่างประเทศแล้ว ความสัมพันธ์ของเราคงจะไกลปืนเที่ยงเสียแล้ว คงยากที่จะติดต่อกันได้อย่างสม่ำเสมอ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี