การพูดชี้แจงหรืออธิบายอย่างละเอียดถี่ถ้วน
ประเภทสำนวน
"แจงสี่เบี้ย" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นคำหรือวลีเฉพาะที่ต้องตีความไม่สามารถเข้าใจได้จากความหมายตรงตัว ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) และไม่มีการเปรียบเทียบที่ชัดเจน (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มีที่มาจากการเล่นไพ่ 'แจง' หรือ 'ต้อม' ซึ่งเป็นการพนันไพ่ชนิดหนึ่ง 'สี่เบี้ย' หมายถึงได้เงินพนันจำนวนน้อยหรือเล็กน้อย เพียง 4 เบี้ย (เบี้ย เป็นหน่วยเงินโบราณมีค่าน้อย) สำนวนนี้จึงใช้หมายถึงการทำอะไรที่ได้ประโยชน์เพียงเล็กน้อย ไม่คุ้มค่ากับความเหนื่อยยากหรือความพยายาม
ตัวอย่างการใช้สำนวน "แจงสี่เบี้ย" ในประโยค
- เขาทำงานล่วงเวลาทั้งวันทั้งคืน แต่ได้เงินเพิ่มมาแค่ร้อยกว่าบาท เรียกว่าแจงสี่เบี้ยเลยทีเดียว
- การตะเกียกตะกายเรียนต่อโท-เอกทั้งที่ตำแหน่งงานไม่ได้ต้องการวุฒิสูงขนาดนั้น บางทีก็เหมือนแจงสี่เบี้ย เสียเวลาแต่ไม่ได้ผลตอบแทนคุ้มค่า
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี