พลอยได้รับผิดด้วยในเหตุที่เกิดขึ้น, พลอยเสียหายไปด้วย, เช่น เด็กในบ้านไปขโมยมะม่วงของเพื่อนบ้าน เขามาต่อว่า เจ้าของบ้านก็พลอยเสียรังวัดไปด้วย.
ประเภทสำนวน
"เสียรังวัด" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นนัยหรือความหมายเฉพาะ คำว่า 'เสียรังวัด' ในความหมายตรงคือการวัดที่ดิน แต่ในสำนวนนี้มีความหมายโดยนัยที่พิเศษ
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
มาจากการรังวัดที่ดิน ซึ่งเป็นการวัดอาณาเขตที่ดินเพื่อออกเอกสารสิทธิ์ หากการรังวัดผิดพลาดหรือไม่ได้ตามที่คาดหวัง ก็จะ 'เสียรังวัด' สำนวนนี้จึงหมายถึง การพลาดโอกาส หรือสูญเสียประโยชน์ที่ควรจะได้รับไป โดยเฉพาะในเรื่องความรัก การแต่งงาน หรือการได้คู่ครอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เสียรังวัด" ในประโยค
- แม่เคยจับคู่ให้ลูกสาวกับลูกชายเพื่อนสนิท แต่ลูกสาวไม่ยอม ตอนนี้ชายคนนั้นประสบความสำเร็จมาก แม่จึงบ่นว่าลูกสาวเสียรังวัดไปแล้ว
- เขาปฏิเสธข้อเสนองานที่บริษัทใหญ่เพราะคิดว่าจะได้ตำแหน่งที่ดีกว่า แต่สุดท้ายกลับไม่ได้งานไหนเลย นับว่าเสียรังวัดไปอย่างน่าเสียดาย
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี