ประเภทสำนวน
"เล่นกับไฟ" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมเสี่ยงอันตรายกับการเล่นกับไฟ ต้องตีความเพิ่มเติมว่าการกระทำที่เปรียบนั้นมีความเสี่ยงอย่างไร ซึ่งมีลักษณะเป็นคำเปรียบเปรยแฝงข้อคิด ไม่ใช่คำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากความจริงที่ว่าไฟเป็นสิ่งอันตราย ใครที่ประมาทไปเล่นหรือจับต้องไฟโดยไม่ระมัดระวัง ย่อมเสี่ยงต่อการถูกไฟลวกหรือเผาไหม้ได้ จึงนำมาเปรียบกับการที่คนเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับสถานการณ์หรือบุคคลที่อันตราย มีความเสี่ยงสูง หรือมีโอกาสจะได้รับผลร้ายตามมา
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เล่นกับไฟ" ในประโยค
- การเข้าไปคบหากับคนที่มีประวัติเป็นนักเลงอันธพาล ก็เหมือนกับเล่นกับไฟ วันหนึ่งเราอาจจะถูกเผาจนได้รับความเสียหาย
- เธอรู้ว่าเขามีครอบครัวแล้ว แต่ยังยอมเป็นมือที่สามแบบนี้ เหมือนเล่นกับไฟชัดๆ สุดท้ายคนที่จะเจ็บมากที่สุดก็คือเธอนั่นแหละ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี