อยู่ในฐานะหรือตําแหน่งที่ต้องทําตามที่เขาสั่ง
ประเภทสำนวน
"เป็นหุ่นให้เชิด" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องตีความเป็นความหมายเฉพาะในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากการเล่นหุ่นกระบอกหรือหุ่นละครที่ต้องมีผู้เชิดอยู่เบื้องหลัง โดยหุ่นเป็นเพียงวัตถุที่ไม่มีชีวิตและไม่มีความคิดเป็นของตนเอง ต้องเคลื่อนไหวหรือแสดงตามการควบคุมของผู้เชิด สำนวนนี้จึงใช้เปรียบเทียบถึงคนที่ยอมเป็นเครื่องมือหรือถูกควบคุมให้ทำตามความต้องการของผู้อื่น โดยไม่มีความคิดหรือเจตจำนงเป็นของตนเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เป็นหุ่นให้เชิด" ในประโยค
- นักการเมืองคนนั้นเป็นเพียงแค่หุ่นให้คนเบื้องหลังเชิด ไม่มีอำนาจตัดสินใจเองเลยแม้แต่น้อย
- พวกเขาต้องการเพียงคนที่ยอมเป็นหุ่นให้เชิด ไม่ต้องการผู้นำที่มีความคิดเป็นของตัวเอง
- อย่ายอมเป็นหุ่นให้เชิดในการหาประโยชน์ของเขาเลย คุณควรมีความคิดและจุดยืนเป็นของตัวเอง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี