เถียงได้ไม่หยุดปาก มักจะใช้กับเด็กที่เถียงผู้ใหญ่อยู่เสมอ
ประเภทสำนวน
"เถียงคำไม่ตกฟาก" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีการเปรียบเปรยพฤติกรรมของคนที่ชอบเถียงทุกเรื่อง มีความหมายแฝงที่ต้องตีความ ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และมีลักษณะเป็นการเปรียบเทียบพฤติกรรมมนุษย์
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
คำว่า 'ตกฟาก' มีความหมายว่า การคลอดหรือการเกิด สำนวนนี้เปรียบเทียบบุคคลที่ชอบโต้เถียงทุกเรื่องแม้เรื่องเล็กน้อย หรือเถียงแม้กระทั่งเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนเกิด ซึ่งเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เพราะไม่มีใครจำเหตุการณ์ตอนตัวเองเกิดได้ แสดงถึงลักษณะคนที่ชอบเถียงอย่างไร้เหตุผล เถียงทุกเรื่องไม่ยอมรับผิด
ตัวอย่างการใช้สำนวน "เถียงคำไม่ตกฟาก" ในประโยค
- ฉันไม่อยากคุยกับเขาเลย เพราะเขาเป็นคนเถียงคำไม่ตกฟาก จะพูดอะไรก็เถียงไปเสียทุกเรื่อง
- เธอเลิกเป็นคนเถียงคำไม่ตกฟากได้แล้ว บางครั้งก็ควรยอมรับความผิดพลาดของตัวเองบ้าง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี