หมดความรู้ เช่น ครูสอนศิษย์จนหมดพุง; อาการที่เปิดเผยโดยมิได้ปิดบังอำพราง เช่น สารภาพจนหมดไส้หมดพุง
สิ้นไส้สิ้นพุง ก็ว่า
ประเภทสำนวน
"หมดไส้หมดพุง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องตีความพิเศษเป็นการสูญเสียทรัพย์สินหรือทุนรอนทั้งหมด ไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) หรือการเปรียบเทียบเพื่อให้ข้อคิด (คำพังเพย)
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบการสูญเสียทรัพย์สินหรือเงินทองจนหมดสิ้นกับการเอาไส้และพุงออกจากร่างกาย ซึ่งเป็นอวัยวะภายในที่สำคัญ สื่อถึงความล่มจมทางการเงินหรือสูญเสียสิ่งสำคัญไปหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว
ตัวอย่างการใช้สำนวน "หมดไส้หมดพุง" ในประโยค
- เขาลงทุนทำธุรกิจครั้งนี้แล้วหมดไส้หมดพุงเลย ทรัพย์สินที่เก็บมาทั้งชีวิตหมดไปเกือบทั้งหมด
- การพนันทำให้เขาหมดไส้หมดพุง บ้านช่องที่ดินต้องขายไปหมด ไม่มีอะไรเหลือเลย
- ผมให้ลูกเรียนเมืองนอกจนหมดไส้หมดพุง แต่ก็คุ้มค่าเพราะลูกได้งานดีๆ ทำ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี