สู้จนถึงที่สุด, สู้ไม่ถอย
กร่อนมาจากสำนวนเกี่ยวกับการตีไก่ซึ่งถูกตีจนต้องเย็บตาว่า สู้จนเย็บตา
เช่น เขาสู้ยิบตาแม้ว่าจะสะบักสะบอมเพียงใดก็ไม่ยอมแพ้
ประเภทสำนวน
"สู้ยิบตา" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ ต้องเข้าใจความหมายเฉพาะที่ใช้กันในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้แสดงถึงการทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ไม่ย่อท้อแม้จะรู้สึกเหนื่อยล้าถึงขั้นที่ตาเล็กลงหรือหรี่ลงจากความเหนื่อยล้า คำว่า 'ยิบตา' หมายถึงอาการที่ตาเล็กลงหรือหรี่ลงเพราะความเหนื่อยล้า แต่ก็ยังพยายามทำงานต่อไป แสดงถึงความพยายามอย่างเต็มที่แม้จะเหนื่อยมาก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สู้ยิบตา" ในประโยค
- ทีมงานต้องสู้ยิบตาเพื่อให้งานเสร็จทันเดดไลน์ในวันพรุ่งนี้
- แม้จะเหนื่อยมากแค่ไหน เธอก็สู้ยิบตาทำงานตลอดทั้งคืนเพื่อให้โปรเจคสำเร็จ
- นักศึกษาต้องสู้ยิบตาอ่านหนังสือติวสอบกันจนถึงเช้า
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี