ไกลมากที่สุด เช่น เขาหนีไปอยู่สุดหล้าฟ้าเขียว ยากที่ใครจะตามไปถึง
สุดขอบฟ้า ก็ว่า
ประเภทสำนวน
"สุดหล้าฟ้าเขียว" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นคำเปรียบเปรยที่มีความหมายแฝง ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และมีความหมายที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่เป็นเพียงคำหรือวลีเฉพาะแบบสำนวนไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้ในการเปรียบเปรยถึงสถานที่ที่ไกลมาก หรือไกลจนสุดขอบฟ้า เปรียบเปรยกับการไปในที่ห่างไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยมีความหมายว่า ไกลมากจนแทบจะไปจนสุดแผ่นดิน ไปถึงที่ท้องฟ้าสีเขียวจรดกับแผ่นดิน หรือสุดขอบฟ้านั่นเอง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สุดหล้าฟ้าเขียว" ในประโยค
- แม้จะต้องไปไกลสุดหล้าฟ้าเขียว ฉันก็จะตามหาเธอจนพบ
- เขาบอกว่าพร้อมจะติดตามคนรักไปแม้สุดหล้าฟ้าเขียว แสดงให้เห็นถึงความรักอันแรงกล้า
- พ่อแม่ส่วนใหญ่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อลูก แม้จะต้องออกเดินทางไปสุดหล้าฟ้าเขียว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี