เหล่าเสนาวานรของกองทัพพระรามในเรื่องรามเกียรติ์ มี ๑๘ ตน; โดยปริยายหมายถึงพวกมิจฉาชีพที่ทำมาหากินโดยใช้เล่ห์เหลี่ยมกลอุบายหลอกลวงผู้อื่น.
ประเภทสำนวน
"สิบแปดมงกุฎ" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นสำนวนเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลความหมายได้ตรงตัวจากคำที่ประกอบเป็นสำนวน 'สิบแปดมงกุฎ' ไม่ได้มีความหมายเกี่ยวกับมงกุฎจริงๆ แต่หมายถึงลักษณะการแสดงความเก่งกล้าในหลายด้าน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวน 'สิบแปดมงกุฎ' มาจากชื่อตำรา 'สิบแปดมงกุฎ' ที่รวบรวมความรู้และวิชาต่างๆ ไว้มากมาย เปรียบเสมือนคนที่อวดอ้างว่าตนเองมีความรู้มาก เก่งหลายด้าน ชำนาญหลายอย่าง แต่แท้จริงแล้วอาจไม่ได้เก่งจริงอย่างที่อวดอ้าง จึงมักใช้ในเชิงประชดประชันหรือล้อเลียน
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สิบแปดมงกุฎ" ในประโยค
- แกอย่ามาสิบแปดมงกุฎหน่อยเลย เห็นทำอะไรทีไรก็ไม่เคยสำเร็จสักอย่าง
- เจ้านายคนใหม่นี่สิบแปดมงกุฎจริงๆ อ้างว่าเก่งทั้งบัญชี การตลาด และการบริหาร แต่พอให้ทำงานจริงกลับทำอะไรไม่ได้เลย
- คนอย่างเขาชอบทำตัวเป็นสิบแปดมงกุฎ อวดรู้ไปทุกเรื่อง แต่ความจริงแล้วก็แค่รู้ผิวเผินเท่านั้น
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี