บ้า ๆ บอ ๆ สติไม่สมบูรณ์, มีจิตใจใกล้ไปทางบ้า ๆ บอ ๆ
มักใช้แบบ ไม่เต็มบาท
ประเภทสำนวน
"สามสลึงเฟื้อง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ต้องตีความ ไม่สามารถเข้าใจได้จากการแปลความหมายตรงตัวของคำ 'สามสลึงเฟื้อง' เท่านั้น
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากระบบเงินตราโบราณของไทย โดย 1 บาท = 4 สลึง และ 1 สลึง = 2 เฟื้อง ดังนั้น 'สามสลึงเฟื้อง' จึงเท่ากับ 3.5 สลึง หรือเกือบจะเต็มบาทแล้ว (ขาดแค่ครึ่งสลึง) สำนวนนี้ใช้เปรียบเปรยถึงคนที่เกือบจะสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ยังมีข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ไม่สมบูรณ์เต็มที่
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สามสลึงเฟื้อง" ในประโยค
- เขาเป็นคนเก่งมากแทบทุกด้าน แต่ยังมีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์ เรียกว่าเป็นคนสามสลึงเฟื้อง
- ร้านอาหารนี้ทั้งรสชาติและบริการดีมาก แต่สถานที่ค่อนข้างคับแคบ ถือว่าเป็นร้านสามสลึงเฟื้อง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี