ประเภทสำนวน
"สามวันดีสี่วันไข้" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยถึงสภาพหรือลักษณะที่ไม่แน่นอน มีความหมายแฝงที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรงและไม่สามารถเข้าใจได้จากความหมายตรงตัว
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบถึงสภาพชีวิตที่ไม่สม่ำเสมอ ดีบ้างไม่ดีบ้าง สลับกันไป เหมือนคนที่สุขภาพไม่แข็งแรง อยู่ดีๆ ได้ไม่กี่วันก็ป่วยอีกแล้ว ใช้อธิบายสภาพที่มีความไม่แน่นอน หรือมีปัญหาเกิดขึ้นบ่อยๆ ไม่มีความสม่ำเสมอ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "สามวันดีสี่วันไข้" ในประโยค
- ธุรกิจของเขาเป็นแบบสามวันดีสี่วันไข้ มีกำไรบ้าง ขาดทุนบ้าง ไม่มั่นคงเลย
- การทำงานของพนักงานคนนี้สามวันดีสี่วันไข้ ตั้งใจทำงานได้สักพัก แล้วก็กลับไปเหลวไหลเหมือนเดิม
- ความสัมพันธ์ของคู่นี้เป็นแบบสามวันดีสี่วันไข้ ดีกันได้ไม่นาน ก็ทะเลาะกันอีกแล้ว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี