ว่าอย่างเจ็บแสบทำให้เสียหายอย่างรุนแรง
ประเภทสำนวน
"ว่าสาดเสียเทเสีย" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถเข้าใจได้จากการตีความตรงตัว ต้องทราบความหมายเฉพาะที่ใช้ในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากการเปรียบการพูดหรือทำอะไรไปอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ไม่ปิดบังซ่อนเร้น เหมือนกับการสาดน้ำหรือของเหลวทิ้งไปอย่างเปิดเผย 'ว่าสาด' หมายถึงพูดออกไปตรงๆ อย่างเปิดเผย ส่วน 'เสียเทเสีย' เป็นการเน้นย้ำว่าทำไปอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีการปิดบัง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ว่าสาดเสียเทเสีย" ในประโยค
- เขาเป็นคนพูดจาว่าสาดเสียเทเสีย ไม่มีอ้อมค้อม ทำให้บางครั้งดูเหมือนไม่มีมารยาท
- ฉันชอบเพื่อนที่ว่าสาดเสียเทเสียมากกว่า จะได้รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่จริงๆ ไม่ต้องมาเดาใจกัน
- การประชุมวันนี้ผู้จัดการพูดว่าสาดเสียเทเสีย ว่าใครทำงานไม่ได้ตามเป้าก็ต้องออก ทำให้พนักงานหลายคนรู้สึกตกใจ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี