เทียบดูว่าพอสู้ได้หรือไม่ เช่น ลูกศิษย์วัดรอยเท้าครู, คอยเทียบตัวเองกับผู้ที่เหนือกว่าเพื่อชิงดีชิงเด่น เช่น ลูกน้องวัดรอยตีนหัวหน้า
ประเภทสำนวน
"วัดรอยตีน" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นคำหรือวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องเข้าใจความหมายเฉพาะที่ใช้กันในภาษาไทย การวัดรอยตีนไม่สามารถแปลเป็นการวัดรอยเท้าจริงๆ ได้ แต่มีความหมายเฉพาะเกี่ยวกับการคาดคะเนอุปนิสัยหรือพฤติกรรม
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้หมายถึง การสังเกตหรือพิจารณาอุปนิสัย พฤติกรรม หรือความคิดของคนจากการกระทำหรือคำพูดของเขา มีที่มาจากการสังเกตรอยเท้าเพื่อทำนายว่าเจ้าของเท้านั้นเป็นคนอย่างไร หรือจะมีอนาคตเป็นอย่างไร ซึ่งเป็นความเชื่อโบราณว่าลักษณะของรอยเท้าสามารถบ่งบอกอุปนิสัยและโชคชะตาของคนได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "วัดรอยตีน" ในประโยค
- ผมต้องวัดรอยตีนก่อนว่าคนคนนี้จะไว้ใจได้หรือไม่ ถึงจะตัดสินใจร่วมธุรกิจกับเขา
- แม่มักจะบอกให้ฉันวัดรอยตีนคนที่จะมาสู่ขอให้ดีก่อนจะตอบตกลง เพราะต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต
- ครูประจำชั้นได้วัดรอยตีนนักเรียนใหม่ทุกคนจากการประเมินพฤติกรรมในช่วงสัปดาห์แรก เพื่อจะได้รู้ว่าควรดูแลและสอนอย่างไร
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี