ประเภทสำนวน
"ลม ๆ แล้ง ๆ" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่มีความหมายเฉพาะ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ เป็นวลีสั้นๆ ที่ต้องตีความความหมายพิเศษ ไม่สามารถเข้าใจได้หากแปลตรงตัว
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากภาพของสภาพอากาศที่มีแต่ลมพัดแต่ไม่มีฝนตก ซึ่งเป็นสภาพที่ไม่แน่นอน ไม่เป็นจริงเป็นจัง จึงนำมาเปรียบเปรยถึงเรื่องราวหรือสถานการณ์ที่ไม่มีหลักฐานชัดเจน หรือพูดไปอย่างนั้นเอง ไม่มีความแน่นอน เป็นเพียงข่าวลือหรือการพูดจาที่ไม่น่าเชื่อถือ
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ลม ๆ แล้ง ๆ" ในประโยค
- เขาบอกว่าจะมีการปรับตำแหน่งในบริษัท แต่ฉันว่าเป็นเรื่องลม ๆ แล้ง ๆ ไม่มีใครยืนยันอย่างเป็นทางการเลย
- ข่าวลือเรื่องดาราคู่นั้นจะแต่งงานกันเป็นแค่เรื่องลม ๆ แล้ง ๆ ไม่มีหลักฐานยืนยันแต่อย่างใด
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี