กับข้าวชนิดหนึ่งเอามะพร้าวตําจนมีนํ้ามันออกมา ใส่เกลือกับนํ้าตาล มีรสหวานเค็ม, เครื่องจิ้มผลไม้เปรี้ยวเป็นต้น ทำด้วยพริก เกลือ และน้ำตาล
ประเภทสำนวน
"พริกกะเกลือ" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า คำว่า 'พริกกะเกลือ' เป็นวลีที่นำมาใช้สื่อความหมายเฉพาะ ซึ่งไม่สามารถแปลตรงตัวได้ และไม่ได้ให้ข้อคิดสอนใจโดยตรงเหมือนสุภาษิต หรือมีลักษณะการเปรียบเทียบเชิงนามธรรมอย่างคำพังเพย เป็นการใช้วัตถุจริง (พริกและเกลือ) มาสื่อความหมายเฉพาะในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวน 'พริกกะเกลือ' มีที่มาจากการผสมของพริกและเกลือ ซึ่งเป็นเครื่องปรุงพื้นฐานในอาหารไทย เมื่อทั้งสองอย่างมารวมกันจะทำให้อาหารมีรสจัดขึ้น สำนวนนี้ใช้เปรียบเทียบกับลักษณะการพูดหรือการแสดงออกที่ทำอย่างสะเปะสะปะ ไม่ตรงประเด็น พูดเรื่องนั้นที เรื่องนี้ที ไม่มีสาระสำคัญ เหมือนการโปรยพริกกับเกลือใส่อาหารแบบไม่ได้คำนึงถึงสัดส่วนที่เหมาะสม
ตัวอย่างการใช้สำนวน "พริกกะเกลือ" ในประโยค
- เธอเล่าเรื่องทริปไปเที่ยวให้ฟังแบบพริกกะเกลือ จับประเด็นไม่ได้เลยว่าที่ไหนสนุก ที่ไหนน่าเบื่อ
- การประชุมเมื่อวานพูดกันพริกกะเกลือไปหมด สรุปไม่ได้ว่าตกลงข้อสรุปอะไรกันแน่
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี