ผู้หญิงใจง่ายที่ผู้ชายสามารถเกี้ยวพาราสีเอามาเชยชมได้ง่าย ๆ ทำให้ไม่มีความสำคัญ
ประเภทสำนวน
"ดอกไม้ริมทาง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นถ้อยคำเปรียบเทียบที่มีความหมายแฝง ซึ่งต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงเหมือนสุภาษิต และมีลักษณะการเปรียบเปรยถึงสถานการณ์หรือลักษณะบางอย่าง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบผู้หญิงหรือคนที่ไม่มีเจ้าของ ไม่มีผู้ดูแลรักษา เหมือนดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ริมทาง ซึ่งใครๆ ก็สามารถเด็ดหรือเก็บไปได้ตามใจชอบ สะท้อนถึงความไม่มั่นคงและการไม่ได้รับการคุ้มครองดูแล
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ดอกไม้ริมทาง" ในประโยค
- หญิงสาวที่ออกมาใช้ชีวิตตามลำพังโดยไม่มีครอบครัวดูแล มักถูกคนในสังคมมองว่าเป็นดอกไม้ริมทางที่ใครๆ ก็เข้าหาได้
- เธอแต่งตัวเปิดเผยเดินไปไหนมาไหนคนเดียวตอนกลางคืน ระวังจะถูกมองเป็นดอกไม้ริมทางนะ
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี