ทำอะไรมักผิด ๆ ถูก ๆ เพราะไม่เคยทำมาก่อน ไม่มีประสบการณ์ ท่าทางไม่ทะมัดทแมง กิริยามารยาท ไม่สุภาพเรียบร้อย
ประเภทสำนวน
"ซุ่มซ่ามเหมือนจีนใหม่" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเปรยพฤติกรรมที่ซุ่มซ่ามกับลักษณะของชาวจีนที่เพิ่งอพยพมาอยู่ใหม่ ต้องมีการตีความเพิ่มเติมและไม่ได้เป็นคำสอนโดยตรง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากสมัยก่อนที่ชาวจีนอพยพเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เมื่อเพิ่งมาอยู่ใหม่ (จีนใหม่) จะยังไม่คุ้นเคยกับสภาพแวดล้อม วัฒนธรรม และภาษา ทำให้ดูเงอะงะ สับสน และทำอะไรดูไม่คล่องแคล่ว จึงเกิดเป็นคำเปรียบเทียบกับคนที่ทำอะไรซุ่มซ่าม ไม่เรียบร้อย วุ่นวาย หรือขาดความระมัดระวัง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ซุ่มซ่ามเหมือนจีนใหม่" ในประโยค
- น้องคนนี้ซุ่มซ่ามเหมือนจีนใหม่ เพิ่งมาทำงานวันแรกก็ทำแฟ้มเอกสารตกพื้นกระจายไปหมดแล้ว
- เธอถือจานชามเสียงดังกุกกัก ระวังหน่อย ซุ่มซ่ามเหมือนจีนใหม่ไปได้
- ดูเขาทำงานสิ ซุ่มซ่ามเหมือนจีนใหม่ ทั้งที่อยู่มาตั้งหลายปีแล้ว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี