คนที่เคยทำความชั่วหรือความผิด แล้วสิ่งเหล่านั้นยังคงติดตัวอยู่ เหมือนเป็นตราบาป
ประเภทสำนวน
"ชนักติดหลัง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นคำหรือวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถแปลตรงตัวได้ ต้องเข้าใจความหมายเฉพาะที่ใช้กันในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มาจากอุปกรณ์ 'ชนัก' ซึ่งเป็นไม้หาบหรือเครื่องมือที่ใช้หาบของ การมีชนักติดหลังหมายถึงคนที่มีภาระหนี้สินหรือความรับผิดชอบผูกติดอยู่ เสมือนมีไม้หาบติดอยู่บนบ่าตลอดเวลา สื่อถึงการต้องแบกรับภาระไว้จนไปไหนมาไหนไม่สะดวก
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ชนักติดหลัง" ในประโยค
- พอแต่งงานปุ๊บ เขาก็มีชนักติดหลังทันที ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เลี้ยงลูก ทำให้ใช้ชีวิตไม่อิสระเหมือนเมื่อก่อน
- นักการเมืองคนนี้มีชนักติดหลังเยอะ ทั้งเรื่องคดีความและหนี้สินจากการหาเสียง ทำให้ทำงานไม่คล่องตัว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี