เรื่องราวหรือเหตุการณ์สำคัญที่ค่อนข้างใหญ่โตแต่กลับเงียบหายไป
เรื่องราวเกิดขึ้นแล้วก็เงียบหายไปในที่สุด
ประเภทสำนวน
"คลื่นกระทบฝั่ง" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่ต้องตีความ ไม่สามารถเข้าใจความหมายได้จากการอ่านตรงตัว ต้องทราบความหมายเฉพาะที่ใช้ในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบกับธรรมชาติของคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่ง แล้วกระทบกับฝั่ง ใช้เปรียบถึงผู้ชายที่ผ่านโลกมามาก เคยเที่ยวเตร่หรือมีประสบการณ์ทางเพศมามาก แล้วเมื่อสูงวัยขึ้นจึงกลับมาตั้งหลักปักฐาน แต่งงานมีครอบครัวที่มั่นคง เหมือนคลื่นที่ซัดไปทั่วทะเลแล้วในที่สุดก็กลับมาถึงฝั่ง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "คลื่นกระทบฝั่ง" ในประโยค
- พ่อเขาเป็นคลื่นกระทบฝั่งมาแล้ว เที่ยวเตร่มาเยอะ จนตอนนี้อายุมากแล้วเลยตั้งหลักปักฐาน แต่งงานมีครอบครัวที่มั่นคง
- หลังจากใช้ชีวิตโสดเที่ยวเตร่มาสิบกว่าปี ในที่สุดเขาก็เป็นคลื่นกระทบฝั่ง ตัดสินใจแต่งงานกับแฟนคนปัจจุบัน
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"คลื่นกระทบฝั่ง" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นการเปรียบเทียบธรรมชาติของคลื่นทะเลกับลักษณะบางอย่างของมนุษย์ ต้องตีความเพิ่มเติม มีความหมายแฝงที่ไม่ได้ให้คำสอนโดยตรง แต่เป็นการเปรียบเปรยให้เข้าใจสถานการณ์หรือพฤติกรรมบางอย่าง
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
เปรียบเปรยถึงเรื่องราวหรือข่าวสารที่แพร่กระจายออกไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถปิดบังหรือเก็บเป็นความลับได้อีกต่อไป เหมือนกับคลื่นในทะเลที่เมื่อเคลื่อนตัวมาถึงฝั่งก็จะแตกกระจายไปทั่ว ไม่สามารถย้อนกลับได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "คลื่นกระทบฝั่ง" ในประโยค
- ปกปิดเรื่องทุจริตไว้ไม่ได้หรอก สุดท้ายมันก็เหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ต้องแตกออกมาให้คนรู้จนได้
- ทำไมถึงยอมรับแล้วล่ะ? ก็เพราะข่าวมันเหมือนคลื่นกระทบฝั่ง ปิดบังไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี