การเรียนรู้หรือทำอะไรที่ไม่เต็มที่ไม่ครบสมบูรณ์ ทำอะไรยังไม่เสร็จหรือเลิกล้มไปกลางคันไม่ทำต่อ
ประเภทสำนวน
"ครึ่ง ๆ กลาง ๆ" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่มีความหมายพิเศษ ไม่สามารถตีความได้จากการแปลตรงตัว ต้องเข้าใจความหมายเฉพาะในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้ใช้อธิบายลักษณะการกระทำหรือสถานะที่ไม่เด็ดขาด ไม่ชัดเจน อยู่ในสภาพกึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่เต็มที่ ไม่สมบูรณ์ ไม่ถึงขั้นถึงขนาด หรือทำอะไรไม่สุดทาง ไม่เต็มกำลัง ไม่จริงจัง เอาแน่เอานอนไม่ได้
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ครึ่ง ๆ กลาง ๆ" ในประโยค
- เขาทำงานชิ้นนี้แบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ทำให้ผลงานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร
- ฉันถามความเห็นเขาเรื่องนี้ แต่เขาตอบมาครึ่ง ๆ กลาง ๆ ฟังแล้วไม่รู้ว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยกันแน่
- นักศึกษาคนนั้นเรียนแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่ตั้งใจเต็มที่ สอบจึงได้คะแนนไม่ดี
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี