ยับยั้งคนอื่นให้อยู่ในลู่ในทาง ดังม้าพยศ ต้องสนเคราสนจมูก ก็จะควบคุมม้าได้ ทำให้ได้ม้ามาใช้ประโยชน์
ประเภทสำนวน
"ขัดคอคน สนจมูกม้า" จัดว่าเป็น คำพังเพย เพราะว่า เป็นข้อความที่มีการเปรียบเทียบพฤติกรรมมนุษย์ในลักษณะที่ต้องตีความเพิ่มเติม ไม่ใช่คำสอนโดยตรงแบบสุภาษิต และแม้จะฟังดูแปลกหากแปลตรงตัว แต่ยังมีลักษณะการเปรียบเปรยที่ชัดเจน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบการกระทำที่เป็นอันตรายสองแบบ 'ขัดคอคน' หมายถึงการขัดใจหรือขัดคำพูดของคนที่กำลังพูด ซึ่งเป็นการสร้างความไม่พอใจ ส่วน 'สนจมูกม้า' หมายถึงการแหย่จมูกม้า ซึ่งเป็นสัตว์ใหญ่ที่มีพละกำลังมาก การกระทำดังกล่าวเสี่ยงต่อการถูกม้าทำร้าย สำนวนนี้จึงสื่อถึงการเลือกทำสิ่งที่อันตรายและเสี่ยงทั้งสองทาง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "ขัดคอคน สนจมูกม้า" ในประโยค
- ถ้าคุณจะไปวิจารณ์การทำงานของหัวหน้าต่อหน้าลูกน้องของเขา ก็เหมือนกับขัดคอคน สนจมูกม้า นั่นแหละ เสี่ยงมากที่จะได้รับผลร้าย
- การที่นายไปพูดแทรกระหว่างแม่ยายกำลังสั่งสอนลูกเขยคนอื่น ก็เหมือนขัดคอคน สนจมูกม้า เลยนะ ทั้งคู่มีโอกาสหันมาโกรธเราได้
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี