เปลี่ยนแปลงหรือทำให้ผิดไปจากเดิมอย่างตรงกันข้าม
เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปอย่างตรงกันข้าม
ประเภทสำนวน
"กลับหน้ามือเป็นหลังมือ" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นถ้อยคำที่ไม่สามารถแปลความหมายได้ตรงตัว ต้องตีความเป็นนัยเฉพาะ โดยไม่ใช่คำสอนโดยตรง (สุภาษิต) และไม่ใช่การเปรียบเทียบที่ต้องตีความต่อ (คำพังเพย) แต่เป็นการใช้อวัยวะร่างกายมาสื่อความหมายเฉพาะในภาษาไทย
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้มีที่มาจากลักษณะทางกายภาพของมือมนุษย์ที่มีด้านหน้า (ฝ่ามือ) และด้านหลัง (หลังมือ) ซึ่งแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและตรงข้ามกันอย่างสิ้นเชิง จึงนำมาใช้เปรียบเทียบกับการเปลี่ยนแปลงทัศนคติหรือท่าทีที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันและสิ้นเชิง
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กลับหน้ามือเป็นหลังมือ" ในประโยค
- เขาเคยเป็นเพื่อนสนิทกันมาก แต่พอมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง ความสัมพันธ์ก็กลับหน้ามือเป็นหลังมือ
- ผู้บริหารคนใหม่มีนโยบายที่แตกต่างไปจากคนเก่าอย่างสิ้นเชิง ทำให้การทำงานในบริษัทกลับหน้ามือเป็นหลังมือภายในระยะเวลาอันสั้น
- เมื่อฐานะการเงินของเขาดีขึ้น ท่าทีของคนรอบข้างก็กลับหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่เคยไม่สนใจก็กลับมาประจบประแจง
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี
ประเภทสำนวน
"กลับหน้ามือเป็นหลังมือ" จัดว่าเป็น สำนวนไทย เพราะว่า เป็นวลีเฉพาะที่ไม่สามารถแปลความหมายตรงตัวได้ มีความหมายเฉพาะในภาษาไทย ต้องตีความเพื่อเข้าใจความหมายแฝงที่ใช้อธิบายการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน
ที่มาและแนวคิดเบื้องหลัง
สำนวนนี้เปรียบเทียบจากการพลิกมือ ซึ่งสามารถเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย เปรียบเสมือนการเปลี่ยนท่าทีหรือความคิดเห็นของคนที่เปลี่ยนไปในทางตรงข้ามอย่างฉับพลัน โดยไม่มีเค้าให้เห็นล่วงหน้า
ตัวอย่างการใช้สำนวน "กลับหน้ามือเป็นหลังมือ" ในประโยค
- เมื่อวานเขายังพูดจาดีกับฉันอยู่เลย แต่วันนี้กลับหน้ามือเป็นหลังมือ มาด่าฉันต่อหน้าคนอื่น
- อย่าไว้ใจคนที่กลับหน้ามือเป็นหลังมือง่ายๆ วันนี้อาจเป็นมิตร พรุ่งนี้อาจเป็นศัตรู
สรุปและทบทวนเรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย
สุภาษิต และคำพังเพย จัดเป็น "สำนวน" ด้วยกันทั้งคู่ เพราะมีความหมายในเชิงเปรียบเทียบ และเป็นถ้อยคำที่ใช้สืบเนื่องกันมานาน
สุภาษิต เป็นถ้อยคำที่มักใช้คำสั้น ๆ กะทัดรัดแต่มีความหมายลึกซึ้ง มีสัมผัสคล้องจอง ส่วนใหญ่สุภาษิตที่ใช้ในสังคมไทยมักมีที่มาจากคำสอนทางพุทธศาสนา
คำพังเพย เป็นถ้อยคำที่ให้ข้อคิด โดยกล่าวถึงพฤติกรรมหรือธรรมชาติรอบตัว ส่วนมากมักเป็นถ้อยคำที่เป็นข้อสรุปการกระทำหรือพฤติกรรมทั่วไป อาจมีที่มาจากนิทาน ตำนาน วรรณคดี